พื้นที่โฆษณา

ข่าวไอที - โรงพยาบาลพระรามเก้า ผนึกกำลัง ผู้นำเทคโนโลยีสุดล้ำจากเกาหลี ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีระบบการแพทย์ทางไกล พลิกวงการแพทย์ไทย สู่ Digital Healthcare ยกโรงพยาบาลมาไว้ที่บ้าน

ข่าวประชาสัมพันธ์

Press Release

ชอบหน้านี้?
PR400... 21 ธ.ค. 65 7.8K

ฟังข่าวนี้

พื้นที่โฆษณา

โรงพยาบาลพระรามเก้า ผนึกกำลัง ผู้นำเทคโนโลยีสุดล้ำจากเกาหลี
ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีระบบการแพทย์ทางไกล
พลิกวงการแพทย์ไทย สู่ Digital Healthcare ยกโรงพยาบาลมาไว้ที่บ้าน

โรงพยาบาลพระรามเก้า สถาบันทางการแพทย์ชั้นนำของเมืองไทย ที่มีความพร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์ตลอดจนเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยและยอดเยี่ยม ร่วมผนึกกำลังกับ บริษัท เนเวอร์ คลาวด์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (Naver Cloud Corp.,) ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud Service Provider หรือ CSP) ระดับแนวหน้าของเกาหลีใต้ พร้อมลงนามให้ความร่วมมืออย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ ระหว่างเกาหลี - ไทย นำเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านสุขภาพที่ล้ำหน้าที่สุด หนุนการบริการแบบ Decentralized Healthcare ยกโรงพยาบาลมาไว้ที่บ้าน มั่นใจพลิกวงการแพทย์ไทย สู่ Digital Healthcare พร้อมก้าวสู่ความเป็นเลิศระดับอาเซียนในอนาคต

นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า "ปัจจุบันการขยายตัวของธุรกิจและสังคมคนเมืองมีมากขึ้น การแข่งขันส่งผลให้กลุ่มคนปัจจุบันเกิดภาวะการเจ็บป่วยที่หลากหลาย สอดรับกับในยุคดิจิทัลคนไข้ส่วนใหญ่เลือกที่จะทำการสื่อสารกับทางโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลในช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งโรงพยาบาลพระรามเก้าเอง ได้มีการทรานส์ฟอร์มนำดิจิทัลเข้ามาใช้ในระยะหนึ่งและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมสู่การเป็น Digital Hospital เต็มรูปแบบแล้วในปีนี้ มีการวางยุทธศาสตร์ด้วยการทำ Digital Transformation ปรับวัฒนธรรมองค์กรใหม่ พร้อมจับมือพันธมิตรด้านเทคโนโลยี ร่วมสร้างบริการทางการแพทย์ในทุกมิติ

สำหรับการผนึกกำลังในครั้งนี้ ถือเป็นการประกาศการแลกเปลี่ยนความรู้และกลยุทธ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างเป็นทางการของเกาหลี - ไทย ระหว่าง โรงพยาบาลพระรามเก้า ในฐานะองค์กรอันเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ชั้นนำในประเทศไทยที่มีประสบการณ์เป็นเลิศด้านการแพทย์ ผสานความเชี่ยวชาญและความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีสุดล้ำ โดย บริษัท เนเวอร์ คลาวด์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (Naver Cloud Corp.,) ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud Service Provider หรือ CSP) ระดับแนวหน้าของเกาหลีใต้ ก่อให้เกิดเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านสุขภาพที่ล้ำหน้าที่สุด เพื่อใช้ในการพัฒนาการแพทย์ทางไกล หรือ Decentralized Healthcare"

ด้าน รศ.พญ.รวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน และที่ปรึกษาศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์โรงพยาบาลพระรามเก้า (Praram9V) อธิบายว่า "ปัจจุบันโรงพยาบาลพระรามเก้าได้มีการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาการให้บริการในรูปแบบ Decentralized Healthcare เพราะเชื่อว่าการบริการเริ่มต้นได้จากที่บ้าน หรือ ทุกที่ ทุกเวลา ตามความสะดวกของผู้รับบริการ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมายังโรงพยาบาล โดยศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์โรงพยาบาลพระรามเก้า (Praram9V) จะมีแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพเป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้รับบริการ ได้รับการปรึกษาแพทย์ รักษา และดูแลสุขภาพแม้ไม่เจ็บป่วย เช่น บริการTelemedicineสำหรับปรึกษาแพทย์ ได้แบบReal-time และคนไข้จะได้รับยาส่งถึงที่บ้าน โดยมีทีมเภสัชกร ที่มากด้วยประสบการณ์ โทรอธิบายให้ความรู้เรื่องการใช้ยา เหมือนกับคนไข้เข้ามารับบริการที่โรงพยาบาล รวมทั้งยังขยายการให้บริการไปคลินิกนอกโรงพยาบาลของโรงพยาบาลพระรามเก้า เพื่อความสะดวกของผู้รับบริการอีกด้วย

นอกจากนี้ ศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์โรงพยาบาลพระรามเก้า ยังมีบริการSmart healthcare servicesโดยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เชื่อมต่อข้อมูลมายังโรงพยาบาลเป็นตัวช่วยแพทย์ในการดูแลคนไข้ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง สามารถดูแลติดตามอาการ เช่น การติดตามระดับน้ำตาล ด้วยเครื่องตรวจน้ำตาลแบบต่อเนื่องสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน CGMS ที่สามารถตรวจวัดระดับน้ำตาลได้แบบต่อเนื่องตลอดเวลา และส่งข้อมูลไปยังโทรศัพท์มือถือได้แบบ Real-time ช่วยให้ผู้ป่วยดูแลตนเองได้ และยังส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตมายังแพทย์และทีมงานสหสาขาวิชาชีพของโรงพยาบาล เช่น พยาบาล และนักโภชนาการ เพื่อช่วยวางแผนการรักษาให้กับผู้ป่วยแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม"

นายแพทย์อนุวัตร สุขสมานพาณิชย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวเสริมว่า "โรงพยาบาลพระรามเก้า มีแผนการทำ Decentralized Healthcare และ Digital Transformation เต็มรูปแบบ มุ่งเน้นเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและนวัตกรรม โดยปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว ใน 2 เฟส ได้แก่ เฟสแรก Digitization หรือการแปลงข้อมูลกระดาษไปสู่ข้อมูลดิจิทัล และ เฟส 2 การทำ Digitalization หรือการปรับกระบวนการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการออกแบบระบบ เช่น การออกแบบระบบการให้บริการวัคซีนโควิดแบบครบวงจรตั้งแต่การซื้อขาย นัดหมาย ไปจนถึงการได้รับใบรับรองในระบบหมอพร้อม, การพัฒนาระบบบริหารจัดการคิวที่ผู้รับบริการ สามารถกดจองคิวได้ด้วยตนเอง , ระบบเปิดประวัติผู้ป่วยใหม่ออนไลน์ที่ผู้รับบริการสามารถเปิดประวัติได้เองที่บ้าน

โดยในอนาคตทางโรงพยาบาลจะพัฒนาระบบ Self-care เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถดูแลสุขภาพได้ด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันและส่งเสริมสุขภาพก่อนเกิดโรค อีกทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการทางการแพทย์ เพื่อความแม่นยำปลอดภัย และสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น การใช้ AI มาช่วยประมวลผลข้อมูลการแพทย์, การใช้เครื่องมือ Marketing Technology มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลผู้รับบริการให้ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalized)

และ สำหรับ เฟสที่ 3 จะเป็นเฟสของการทำ Digital Transformation มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลง การมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กร ผ่านวัฒนธรรมองค์กรใหม่ที่เราเรียกกันว่า "CAT Culture" คือ Collaborations, Agility และ Trust เพื่อให้ทุกคนในองค์กรมีเป้าหมายเดียวกัน พร้อมสร้างผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพให้ตอบโจทย์ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น นพ.อนุวัตร กล่าวทิ้งท้าย

พื้นที่โฆษณา
ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย PR400 ซึ่งเป็นสมาชิกเว็บไซต์ของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ ไทย พีอาร์ นิวส์ หากบทความนี้มีความไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารญาณในการรับชม เนื่องจากทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
พื้นที่โฆษณา