
ข่าวธุรกิจ, สังคม - ยูอาร์ซี เดินหน้าสร้างชุมชนยั่งยืน ภายใต้โครงการ UR Green จัดกิจกรรม CSR มอบหลังคาโซลาร์เซลล์ให้โรงเรียนบ้านอ้อมโรงหีบ
ข่าวประชาสัมพันธ์
Press Release
ฟังข่าวนี้

บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัดนำธุรกิจเดินหน้าสู่ความยั่งยืนด้วยเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ภายใต้โครงการ URGreenตั้งเป้าสร้างชุมชนสีเขียวด้วยแผนติดตั้งและส่งมอบหลังคาโซลาร์เซลล์ให้แก่ 10 โรงเรียน นำร่องโดยโรงเรียนบ้านอ้อมโรงหีบ พร้อมให้ความรู้แก่นักเรียนเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกใส่ใจสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นสร้างชุมชนยั่งยืน
นายฐานันท์ สุวรรณรักษ์ รองประธาน และ ผู้จัดการทั่วไปประเทศไทย ลาว และ กัมพูชา บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “ในฐานะที่ยูอาร์ซีเป็นแบรนด์ผู้ผลิตขนมชั้นนำของประเทศไทย การทำธุรกิจเพื่อแสวงหากำไร อาจไม่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาหรือต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้า มีความรับผิดชอบต่อสังคม และให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนได้อย่างครอบคลุม ดังนั้น ยูอาร์ซี จึงได้ริเริ่มแนวคิด UR Green ที่ให้ความสำคัญใน 3 ด้าน ได้แก่ UR Health and Wellness, UR Recycle และ UR Green Industry ที่มุ่งมั่นประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming) เราจึงให้ความสำคัญกับการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่ยั่งยืน (Renewable and Sustainable Energy) มุ่งสร้างอุตสาหกรรมสีเขียว(UR Green Industry) โดยในปีที่ผ่านมาเราติดตั้งหลังคาระบบโซลาร์เซลล์ครอบคลุมทุกโรงงานผลิต และ คลังสินค้า ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 4,000 ตัน หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ทดแทนถึง 450,000 ต้นต่อปี
ภายใต้โครงการ UR Green ยูอาร์ซีได้จัดกิจกรรม CSR ที่ส่งเสริม และ ปลูกจิตสำนึกใส่ใจสิ่งแวดล้อม และรณรงค์ให้ลดการใช้พลังงาน โดยเริ่มจากการสร้างชุมชนสีเขียวด้วยแผนติดตั้ง และส่งมอบหลังคาโซลาร์เซลล์ให้แก่ 10โรงเรียน ภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งมีโรงเรียนบ้านอ้อมโรงหีบ ที่ตั้งอยู่ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นโรงเรียนนำร่องในโครงการนี้ โดยโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 4,674 กิโลกรัมต่อปี โดยแผนงานตลอดโครงการคาดว่าจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 46,740 กิโลกรัมหรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ทดแทนถึง 5,200 ต้นต่อปีนอกจากนี้ยังสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 15-20% ทำให้โรงเรียนฯ สามารถนำเงินที่ประหยัดไปใช้ประโยชน์ในโครงการพัฒนาการศึกษาอื่นๆ
หัวข้อแนะนำ

แสดงความคิดเห็น