ภาษาไทย
English
กรุงเทพฯ, 8 กรกฎาคม 2568 /PRNewswire/ -- SKYWORTH PV ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเครือยักษ์ใหญ่วงการอิเล็กทรอนิกส์จีนอย่าง SKYWORTH Group ได้ประกาศแผนรุกธุรกิจพลังงานสะอาดครั้งใหญ่แบบสองแนวรบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้ลงนามจัดตั้งกองทุนมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ร่วมกับกองทุนพลังงานใหม่แห่งหนึ่ง และทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการธนาคารเชิงกลยุทธ์กับธนาคาร ICBC Thailand พิธีลงนามสำคัญนี้จัดขึ้นที่โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทยพอดี ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางสำคัญที่ SKYWORTH จะใช้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานแสงอาทิตย์ทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน
ขับเคลื่อนพลังงานสะอาดทั่วอาเซียน
ภายในงานมีการรวมตัวของแขกผู้มีเกียรติกว่า 160 ท่าน ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงิน สมาคมอุตสาหกรรม และองค์กรชั้นนำทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกัน ในการเร่งผลักดันความร่วมมือด้านพลังงานสะอาดให้เกิดขึ้นจริงในวงกว้าง
"ไทยถือเป็นหัวใจสำคัญด้านพลังงานแสงอาทิตย์ของอาเซียน ด้วยศักยภาพด้านพลังงานแสงอาทิตย์รวม 25 GW ทั่วโลก เรากำลังนำเทคโนโลยีที่ครบวงจรมาผนึกกำลังกับพันธมิตรในประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเป็นธรรม" คุณ Wanfei Qu ซีไอโอของ SKYWORTH Group, ผู้อำนวยการและซีอีโอของ SKYWORTH PV รวมถึงประธานกรรมการของ SKYWORTH Renewable Energy (Thai) Limited กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษกับกลุ่มสื่อชั้นนำของไทย ทั้ง TNN, CH5, Amarin TV และ NBT ในช่วงก่อนเริ่มงานหลัก
ยุทธศาสตร์ปักหมุดในไทย
คุณ Lin Jin กรรมการบริหารและประธานกรรมการของ SKYWORTH Group ได้กล่าวเปิดงานด้วยการย้อนรอยเส้นทาง 37 ปีของบริษัทฯ จากผู้นำด้านอิเล็กทรอนิกส์สู่ผู้บุกเบิกด้านพลังงานหมุนเวียนว่า "ความเชื่อใจที่เราสร้างสมมาตลอดหลายทศวรรษคือพลังขับเคลื่อนนวัตกรรมของเราในอาเซียน" SKYWORTH มีรายได้ต่อปีเกือบ 7 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 3.5 แสนล้านบาท) โดยกำลังทุ่มเทศักยภาพในการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อขยายการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ด้านคุณ Xiaobo Li ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ICBC (Thai) Bank Public Company Limited และประธานกิตติมศักดิ์ของสมาคมการค้าวิสาหกิจจีนในประเทศไทย ได้ย้ำความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของความร่วมมือครั้งนี้ว่า "การผนึกกำลังครั้งนี้ผสานรวมความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของจีนเข้ากับเป้าหมาย Net-Zero ของประเทศไทย เรากำลังร่วมกันสร้างระบบนิเวศทางการธนาคารที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน"
ในส่วนของคุณ Wanfei Qu ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์การพัฒนาและวิสัยทัศน์ระดับภูมิภาคของ SKYWORTH PV เธอเล่าว่า SKYWORTH PV ก่อตั้งขึ้นในปี 2563 และได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดจนกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในภาคส่วนพลังงานหมุนเวียน ด้วยกำลังการผลิตติดตั้งสะสมรวม 25 GW และได้เข้ามาติดตั้งสถานีพลังงานแสงอาทิตย์ไปแล้วกว่า 750,000 แห่งทั่วโลก
คุณ Qu ยังได้แนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บูรณาการในแนวดิ่งของบริษัทฯ ซึ่งประกอบด้วยโมดูลโซลาร์ อินเวอร์เตอร์ ระบบกักเก็บพลังงาน และระบบติดตั้ง พร้อมทั้งเน้นย้ำบริการ EPC ที่ปรับแต่งมาเพื่อตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ SKYWORTH PV มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์ในภูมิภาค โดยได้ตั้งเป้าสร้างรายได้ให้ได้ 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า เธอเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นระยะยาวที่บริษัทฯ มีต่อภูมิภาคนี้ ผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี การสร้างพันธมิตรในท้องถิ่น และโซลูชันทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานที่ยุติธรรมและยั่งยืน
การลงนามครั้งประวัติศาสตร์
หนึ่งในช่วงเวลาสำคัญของงานนี้อยู่ที่พิธีลงนามความร่วมมือด้านการธนาคารเชิงกลยุทธ์ระหว่าง SKYWORTH PV กับ ICBC (Thai)
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังระหว่าง SKYWORTH PV กับ ICBC (Thai) เพื่อเร่งผลักดันการเงินสีเขียวข้ามพรมแดน สนับสนุนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของไทยด้วยโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ และสำรวจนวัตกรรมใหม่ ๆ ในระบบนิเวศทางการธนาคารที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน การจับมือกันครั้งนี้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสาขาของ ICBC รวม 21 แห่งทั่วประเทศ ผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านพลังงานสะอาดระดับโลกของ SKYWORTH โดยพร้อมเข้ามาเติมพลังให้ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ครั้งที่สองนั้น SKYWORTH PV ได้ลงนามความร่วมมือกับกองทุนพลังงานใหม่แห่งหนึ่ง โดยภาษีโซลาร์และการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศไทย ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนห้องทดลองด้านพลังงานหมุนเวียนของอาเซียน ซึ่งการที่ SKYWORTH เป็นผู้นำด้านพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายศูนย์ บวกกับเงินทุน 500 ล้านดอลลาร์ จะสร้างแรงขับเคลื่อนที่ไม่อาจหยุดยั้งได้
สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
ขณะที่พลุส่องสว่างเหนือแม่น้ำเจ้าพระยา SKYWORTH PV ก็ได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า ประเทศไทยคือจุดเริ่มต้นสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคต Net-Zero ของอาเซียน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีจีน ความร่วมมือจากพันธมิตรไทย และเงินทุนข้ามพรมแดน
แสดงความคิดเห็น