พื้นที่โฆษณา

พีอาร์ นิวส์ไวร์ - LAS VEGAS SANDS เริ่มก่อสร้างโครงการระดับอัลตร้าลักชัวรีแห่งใหม่ในสิงคโปร์

พีอาร์ นิวส์ไวร์

PR Newswire

ชอบหน้านี้?
พีอาร์ นิวส์ไวร์ - LAS VEGAS SANDS เริ่มก่อสร้างโครงการระดับอัลตร้าลักชัวรีแห่งใหม่ในสิงคโปร์

พิธีปฐมฤกษ์ในครั้งนี้มี Lawrence Wong นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสิงคโปร์เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร. Miriam Adelson ผู้ร่วมก่อตั้ง Las Vegas Sands มาเข้าร่วม โดยถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการพลิกโฉมด้านการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

สิงคโปร์ 15 กรกฎาคม 2568 /PRNewswire/ -- Las Vegas Sands (NYSE: LVS) ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญเมื่อเย็นวันอังคาร ด้วยการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างโครงการรีสอร์ตสุดหรู และจุดหมายปลายทางด้านความบันเทิงมูลค่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แห่งใหม่ในสิงคโปร์ พร้อมขยับขยายการดำเนินงานในภูมิภาค และยกระดับความมุ่งมั่นของบริษัทต่ออนาคตของสาธารณรัฐ

(บุคคลในภาพเรียงจากซ้ายไปขวา) ผู้ร่วมพิธีปฐมฤกษ์ในครั้งนี้ ได้แก่ Andrew Tulen ผู้อำนวยการอาวุโสและสถาปนิก จาก Populous, Moshe Safdie ผู้ก่อตั้ง Safdie Architects, Patrick Dumont ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Las Vegas Sands, ดร. Miriam Adelson ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Las Vegas Sands, Lawrence Wong นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสิงคโปร์, Grace Fu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความสัมพันธ์ทางการค้า, Robert Goldstein ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Las Vegas Sands, Grant Chum รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชีย Las Vegas Sands, และ Paul Town ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Marina Bay Sands
(บุคคลในภาพเรียงจากซ้ายไปขวา) ผู้ร่วมพิธีปฐมฤกษ์ในครั้งนี้ ได้แก่ Andrew Tulen ผู้อำนวยการอาวุโสและสถาปนิก จาก Populous, Moshe Safdie ผู้ก่อตั้ง Safdie Architects, Patrick Dumont ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Las Vegas Sands, ดร. Miriam Adelson ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Las Vegas Sands, Lawrence Wong นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสิงคโปร์, Grace Fu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความสัมพันธ์ทางการค้า, Robert Goldstein ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Las Vegas Sands, Grant Chum รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชีย Las Vegas Sands, และ Paul Town ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Marina Bay Sands

สัมผัสประสบการณ์ข่าวสารแบบหลายช่องทางที่โต้ตอบเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.multivu.com/marina_bay_sands/9344151-en-lasvegas-sands-new-ultra-luxury-development

พิธีปฐมฤกษ์นี้ได้รับเกียรติจาก Lawrence Wong นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสิงคโปร์, Grace Fu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความสัมพันธ์ทางการค้า, ดร. Miriam Adelson ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Las Vegas Sands, Robert Goldstein ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ Patrick Dumont ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ

Robert Goldstein ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Las Vegas Sands กล่าวว่า "ผู้ก่อตั้งของเรา Sheldon G. Adelson ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2553 และเริ่มต้นการเดินทางในสิงคโปร์ร่วมกับ Marina Bay Sands และชาวสิงคโปร์ พร้อมคำมั่นสัญญาที่จะพลิกโฉมการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ สิบห้าปีต่อมา เราได้บรรลุความทะเยอทะยานเหล่านี้ และยิ่งไปกว่านั้น Marina Bay Sands ยังเป็นรีสอร์ตแบบครบวงจรที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นผู้กำหนดมาตรฐานระดับสูงในอุตสาหกรรม การได้เห็นวิสัยทัศน์ของ Adelson กลายเป็นจริงนั้นเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง และเราภูมิใจอย่างยิ่งที่จะสานต่อมรดกของท่านผ่านพิธีปฐมฤกษ์โครงการใหม่ของเรา เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่อุตสาหกรรมการบริการจะต้องอิจฉา และเปิดประตูสู่ยุคใหม่แห่งการท่องเที่ยวระดับหรูในสิงคโปร์"

เมื่อแล้วเสร็จ โครงการพัฒนาใหม่แห่งนี้จะกำหนดนิยามใหม่ให้กับมาตรฐานอุตสาหกรรม พร้อมกับผลักดันขอบเขตด้านการท่องเที่ยว การบริการ และความบันเทิงแบบหรูหรา พร้อมคัดสรรประสบการณ์สุดพิเศษที่ดีที่สุดมามอบให้กับเหล่านักเดินทาง

โครงการบุกเบิกนี้จะประกอบไปด้วยอาคารโรงแรมสุดหรูที่มีห้องชุด 570 ห้อง พร้อมดาดฟ้าและห้องอาหารอันโดดเด่น ร้านค้าบูติกสุดหรู โพเดียมและสกายเกม สปาและศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร รวมถึงพื้นที่จัดประชุมระดับพรีเมียมประมาณ 200,000 ตารางฟุต นอกจากนี้ยังมีสนามกีฬาขนาด 15,000 ที่นั่ง ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการจัดงานบันเทิงสด โดยมีฉากหลังเป็นอ่าวมารีน่าอันสวยงาม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมความบันเทิงของภูมิภาคเอเชียให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น

โครงการใหม่นี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จด้านวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม ซึ่งได้รับการออกแบบโดยบริษัท Safdie Architects ที่นำโดย Moshe Safdie ซึ่งเป็นบริษัทที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ Marina Bay Sands ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณริมแม่น้ำสะท้อนโครงการอัลตร้าลักชัวรีแห่งใหม่ของ Las Vegas Sands ซึ่งประกอบด้วยอาคารโรงแรมสูง 55 ชั้น พร้อมอารีน่าความจุ 15,000 ที่นั่ง ตั้งอยู่ติดกับ Marina Bay Sands ในปัจจุบัน ภาพโดย Safdie Architects
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณริมแม่น้ำสะท้อนโครงการอัลตร้าลักชัวรีแห่งใหม่ของ Las Vegas Sands ซึ่งประกอบด้วยอาคารโรงแรมสูง 55 ชั้น พร้อมอารีน่าความจุ 15,000 ที่นั่ง ตั้งอยู่ติดกับ Marina Bay Sands ในปัจจุบัน ภาพโดย Safdie Architects

ภาพจำลองของอาคารโรงแรมและอารีน่าแห่งใหม่ที่ตั้งตระหง่านเคียงขอบฟ้า ภาพโดย Safdie Architects
ภาพจำลองของอาคารโรงแรมและอารีน่าแห่งใหม่ที่ตั้งตระหง่านเคียงขอบฟ้า ภาพโดย Safdie Architects

ภาพจำลองทางอากาศของ Skyloop เผยให้เห็นงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์และล้ำสมัยของปีกคู่ ภาพโดย Safdie Architects
ภาพจำลองทางอากาศของ Skyloop เผยให้เห็นงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์และล้ำสมัยของปีกคู่ ภาพโดย Safdie Architects

โลกที่เหนือระดับ

โรงแรมสูง 55 ชั้นแห่งนี้โดดเด่นด้วยอาคารที่ทำมุม 45 องศา เพื่อเปิดรับทัศนียภาพแบบพาโนรามาของอ่าวมารีน่า และช่องแคบสิงคโปร์ โดยมาพร้อมการออกแบบปีกคู่ที่โค้งออกด้านนอกขณะที่ทอดตัวสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า

โครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากพื้นที่สีเขียวในเมืองอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะ และได้ผสานรวมการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเข้ากับอาคารทั้งหมด ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากมาย

จุดเด่นที่สุดของโรงแรมก็คือ Skyloop ขนาด 76,000 ตารางฟุต ซึ่งเป็นผลงานออกแบบที่พลิกโฉมวงการ และเป็นดั่งสรวงสวรรค์ที่น่าทึ่ง ซึ่งผสานรวมพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ส่วนตัวบนที่สูงให้เข้ากันได้อย่างลงตัว

รูปทรงของ Skyloop เป็นคู่หูของ Sands SkyPark อันโดดเด่นที่ Marina Bay Sands โดยมีลักษณะเป็นรูปทรงรีซ้อนกันเป็นเกลียวไปในทิศทางตรงข้าม ซึ่งทำให้หอคอยนี้ดูเปี่ยมไปด้วยพลวัต และมาพร้อมกับทัศนียภาพ 360 องศา  Skyloop ส่วนล่างเชื่อมโยงกับพื้นที่สาธารณะหลายแห่ง รวมถึงจุดชมวิว ร้านอาหารชื่อดัง และสวนบนดาดฟ้าอันเขียวชอุ่ม ขณะที่ส่วนบน แขกของโรงแรมจะได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นกาบานาส่วนตัว สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ และต้นปาล์มให้ร่มเงา นอกจากนี้ยังมีระเบียงสปาเพื่อสุขภาพที่ยื่นออกไปซึ่งออกแบบมาสำหรับโยคะ ศิลปะ และกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ

อาคารโพเดียมจะประกอบด้วยพื้นที่จัดงาน MICE ระดับพรีเมียม 3 ชั้น และอารีน่าที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการจัดงานแสดงสดระดับโลก ภาพโดย Safdie Architects
อาคารโพเดียมจะประกอบด้วยพื้นที่จัดงาน MICE ระดับพรีเมียม 3 ชั้น และอารีน่าที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการจัดงานแสดงสดระดับโลก ภาพโดย Safdie Architects

โพเดียมที่อยู่ติดกับโรงแรมจะกลายมาเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับธุรกิจ ความบันเทิง และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม โดยมีสนามกีฬาที่ทันสมัยขนาด 15,000 ที่นั่งอยู่ ณ ใจกลาง โครงการนี้ภายใต้การดูแลของ Populous บริษัทออกแบบระดับโลก ซึ่งมีชื่อเสียงจากการสร้างสรรค์สถานที่จัดงานบันเทิงที่มีชื่อเสียงที่สุดหลายแห่งของโลก อาทิ The Sphere ในลาสเวกัส และ O2 Arena ในลอนดอน

สถานที่แห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับโชว์การแสดงระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ คอนเสิร์ต และอีเวนต์สดขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพระดับสูงสุด ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาเพื่อส่งมอบสุดยอดประสบการณ์ด้านเสียง แนวสายตา และความยืดหยุ่นในการผลิตที่เหนือชั้น

สถานที่จัดงานแห่งนี้จะเชื่อมโยงเข้ากับโครงการพัฒนาทั้งเก่า และใหม่ภายในพื้นที่อ่าวมารีน่าเบย์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกในการสัญจร โดยมีทางเชื่อมตรงไปยังสถานีรถไฟฟ้า MRT Bayfront และมีเส้นทางเชื่อมระหว่างอ่าวมารีน่าเบย์และ Gardens by the Bay

 แขกกว่า 220 คนได้เข้าร่วมงานสำคัญที่จัดขึ้นในคืนนี้ โดยมีการแสดงอันน่าประทับใจจากศิลปินท้องถิ่นอย่าง Jasmine Sokko รวมไปถึงนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรีชาวแคนาดาอย่าง Henry Lau งานเลี้ยงสุดหรูนี้มาพร้อมกับประสบการณ์อาหารที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีจากร้านอาหารชื่อดังของ Marina Bay Sands รวมถึงการลิ้มลองเมนูตัวอย่างจาก Jin Ting Wan ร้านอาหารกวางตุ้งแห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว

Marina Bay Sands ได้ประดับแสงไฟสีทองสว่างไสวเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์อันน่าตื่นตาที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ตั้งแต่ตึกทั้งสามและ SkyPark Observation Deck ไปจนถึง Marina Bay Sands Expo & Convention Centre

นอกจากนี้ Marina Bay Sands ยังได้สร้างภาพยนตร์เพื่อยกย่องประเทศสิงคโปร์ และเฉลิมฉลองปีแห่งความสำเร็จของ SG60 โดยมีชื่อว่า "Nothing Comes by Chance" ซึ่งเป็นผลงานที่กำกับโดย Kirsten Tan ผู้กำกับท้องถิ่นที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสิงคโปร์ในการสร้างอนาคตที่สดใส ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความยืดหยุ่น ความทะเยอทะยาน และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยสอดคล้องกับการเติบโต และจิตวิญญาณของ Marina Bay Sands ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวของบุคคลผู้มีพรสวรรค์ชาวสิงคโปร์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีส่วนช่วยกำหนดทิศทางของสิงคโปร์ในระดับโลกทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรม กีฬา และความบันเทิง อาทิเช่น Tan Kheng Hua, Quah Zheng Wen, Pierre Png และ Jasmine Sokko ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อประเทศชาติอย่างจริงใจ

มุ่งสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความยั่งยืนยังคงเป็นหัวใจสำคัญของสถาปัตยกรรม และการดำเนินงานของอาคารแห่งใหม่ โดยสอดคล้องกับกลยุทธ์ระดับโลก Sands ECO360 ของ Marina Bay Sands

บริษัทได้สำรวจแนวทางการออกแบบร่มเงาที่หลากหลายเพื่อส่งมอบความสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพัก และเพื่อลดการใช้พลังงาน ซึ่งรวมถึงระบบบังแดดในตัวที่ใช้กระจกประสิทธิภาพสูง และมู่ลี่ภายในเพื่อลดการถ่ายเทความร้อนจากแสงอาทิตย์โดยตรง พร้อมกับปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงาน ห้องสวีทแต่ละห้องจะมีระเบียงและสวนส่วนตัว ในขณะที่พื้นที่รับประทานอาหารกลางแจ้งจะได้รับการติดตั้งกันสาดเพื่อปกป้องผู้เข้าพักจากสภาพอากาศ ทั้งยังมีการปลูกต้นไม้สายพันธุ์พื้นเมืองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามความเหมาะสมเพื่อเป็นการยกย่องทำเลที่ตั้งอันโดดเด่นของโครงการอีกด้วย

โครงการจะนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้ในระหว่างการก่อสร้าง รวมถึง การใช้วัสดุที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ เช่น คอนกรีตคาร์บอนต่ำ และเหล็กรีไซเคิลเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโครงการในเบื้องต้น นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดทำแผนการจัดการขยะจากการก่อสร้าง โดยจะมีการคัดแยกและรีไซเคิลขยะในพื้นที่ก่อสร้าง และจะมีการนำขยะจากการก่อสร้างอย่างน้อย 75% ไปใช้ประโยชน์เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบลงได้อย่างมาก

ก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่:  

Marina Bay Sands ได้กลายเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของสิงคโปร์นับตั้งแต่เริ่มต้นก่อสร้าง และพลิกโฉมภูมิทัศน์การท่องเที่ยวของประเทศให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำด้านการพักผ่อน ธุรกิจ และความบันเทิงในเอเชีย ในปีที่ผ่านมายังจัดงานไปกว่า 2,200 งานซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด ดึงดูดผู้เข้าร่วมงาน MICE กว่า 1.2 ล้านคน และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โครงการแห่งนี้ได้ต้อนรับผู้เยี่ยมชมครบ 500 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อย

สถานที่แห่งนี้ยังมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจของสิงคโปร์ผ่านการสร้างงานใหม่ และการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศ โดยรีสอร์ตแบบครบวงจรได้จ้างพนักงานโดยตรงมากกว่า 12,000 คน และในปี 2567 มีการใช้จ่ายงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างถึง 92% กับธุรกิจในท้องถิ่น โดยตัวเลขเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ในขณะที่ Marina Bay Sands ขยับขยายการดำเนินงานในสิงคโปร์

"ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา Marina Bay Sands ได้มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างสถานะของสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และหลังจากที่โครงการพัฒนาโรงแรมอัลตร้าลักชัวรีแห่งใหม่ของเราแล้วเสร็จ Las Vegas Sands จะได้ลงทุนเงินไปแล้วกว่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับตั้งแต่เราเริ่มดำเนินงานในสิงคโปร์ในปี 2553 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในระดับสูงของเราในภูมิภาคนี้ และศักยภาพที่เรามองเห็นในสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง" Patrick Dumont ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Las Vegas Sands กล่าว  

"เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับสิทธิประโยชน์ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่โดดเด่น อาทิเช่น โครงสร้างพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม และรัฐบาลที่เข้มแข็งและให้การสนับสนุน ซึ่งมีวิสัยทัศน์แบบก้าวหน้า"

Dumont กล่าวเสริมว่า "เรารู้สึกภาคภูมิใจกับ Marina Bay Sands ที่ได้สร้างผลกระทบที่สร้างความเปลี่ยนแปลง และเราเชื่อมั่นอย่างยิ่งที่จะพัฒนาต่อยอดจากรากฐานที่แข็งแกร่งนี้ โครงการการพัฒนาใหม่ของเราจะยกระดับมาตรฐาน และกำหนดนิยามใหม่ของโลกธุรกิจบริการระดับอัลตร้าลักชัวรีในระดับโลก ซึ่งจะผลักดันการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูงให้เติบโตไปอีกขั้น เรามุ่งหวังที่จะร่วมกันสรรค์สร้างบทใหม่ร่วมกัน และมีส่วนสนับสนุนต่อความสำเร็จในอนาคตของสิงคโปร์อย่างมีความหมายต่อไป"

เกี่ยวกับ Sands (NYSE: LVS)

Sands เป็นผู้พัฒนา และผู้ดำเนินงานรีสอร์ตแบบครบวงจรชั้นนำระดับโลก โดยที่พักอันโดดเด่นของบริษัทได้ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงพักผ่อนและธุรกิจที่มีมูลค่าสูง พร้อมกับสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมไปถึงการสร้างงานอย่างต่อเนื่อง โอกาสทางการเงินสำหรับธุรกิจท้องถิ่น และการลงทุนในชุมชนเพื่อช่วยพลิกโฉมให้ภูมิภาคที่เป็นที่ตั้งของธุรกิจกลายเป็นสถานที่ที่น่าอยู่อาศัย ทำงาน และควรค่าแก่การเยี่ยมชมอย่างแท้จริง

พอร์ตโฟลิโอของอสังหาริมทรัพย์ของ Sands ประกอบด้วย Marina Bay Sands® ในสิงคโปร์ และ The Venetian® Macao, The Londoner Macao®, The Parisian Macao®, The Plaza Macao และ Four Seasons Hotel Macao รวมถึง Sands® Macao ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า ประเทศจีน ผ่านการถือหุ้นส่วนใหญ่ใน Sands China Ltd.

Sands มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านความรับผิดชอบขององค์กร และได้ยึดมั่นในหลักการสำคัญของการบริการผู้คน ชุมชน และโลกใบนี้ นอกจากนี้ ความเป็นผู้นำด้าน ESG ของบริษัทส่งผลให้บริษัทได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับในดัชนี Dow Jones Sustainability ในระดับโลก และในภูมิภาคอเมริกาเหนือ

เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.sands.com

เกี่ยวกับ Marina Bay Sands Pte Ltd

Marina Bay Sands ได้ตั้งตระหง่านในฐานะสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง และเป็นดั่งเพชรยอดมงกุฎบนเส้นขอบฟ้าของสิงคโปร์นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2553 ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ บนชั้นดาดฟ้าที่งดงามที่สุดในโลก และมีห้องพัก รวมถึงห้องสวีทประมาณ 1,850 ห้อง รีสอร์ตแบบครบวงจรแห่งนี้ได้ส่งมอบประสบการณ์การรับประทานอาหาร ช้อปปิ้ง การประชุม และความบันเทิงอันยอดเยี่ยม พร้อมด้วยตารางกิจกรรมอันโดดเด่นในตลอดทั้งปี

Marina Bay Sands มุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่ดีในการให้บริการแก่ผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ผ่านการขับเคลื่อนผลกระทบทางสังคมผ่านโปรแกรมการมีส่วนร่วมของชุมชน Sands Cares และเป็นผู้นำการดูแลสิ่งแวดล้อมผ่านโปรแกรมความยั่งยืนระดับโลก Sands ECO360

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.marinabaysands.com

หากต้องการดูเอกสารสรุปข้อมูลสำคัญ และรูปภาพความละเอียดสูง (เครดิตตามที่ระบุในคำบรรยาย) โปรดคลิก [ที่นี่] 

 


ที่มา : ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - LAS VEGAS SANDS เริ่มก่อสร้างโครงการระดับอัลตร้าลักชัวรีแห่งใหม่ในสิงคโปร์ https://www.prnasia.com/asia-story/archive/4723753_TH23753_10

ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ ซึ่งเป็นสมาชิกเว็บไซต์ของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ ไทย พีอาร์ นิวส์

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา