

ปักกิ่ง, 15 มิถุนายน 2568 /PRNewswire/ -- สืบเนื่องจากที่กระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศว่า Xi Jinping ประธานาธิบดีจีน จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง ครั้งที่ 2 ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถานในสัปดาห์หน้า ทางสถานีโทรทัศน์ CGTN ก็ได้เผยแพร่บทความเจาะลึกความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างจีนกับ 5 ประเทศในเอเชียกลาง นอกจากนี้ บทความดังกล่าวยังวิเคราะห์ว่าการประชุมสุดยอดที่กำลังจะมาถึงนี้จะส่งเสริมการสร้างประชาคมจีน-เอเชียกลางที่มีอนาคตร่วมกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นได้อย่างไรบ้าง
กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดี Xi Jinping จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง ครั้งที่ 2 ที่กรุงอัสตานา ระหว่างวันที่ 16-18 มิถุนายนนี้ ตามคำเชิญของประธานาธิบดี Kassym-Jomart Tokayev แห่งคาซัคสถาน
Cui Zheng ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยรัสเซีย ยุโรปตะวันออก และประเทศในเอเชียกลาง สังกัดมหาวิทยาลัยเหลียวหนิง เปิดเผยกับ CGTN ว่า การประชุมสุดยอดที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นโอกาสสำคัญให้จีนและ 5 ชาติเอเชียกลาง ได้แก่ คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน ได้กระชับความไว้เนื้อเชื่อใจเชิงยุทธศาสตร์ เสริมสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และร่วมกันสร้างเสถียรภาพและแรงขับเคลื่อนเชิงบวกให้กับโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
Cui กล่าวว่า "สิ่งนี้จะยิ่งเสริมสร้างกลไกความร่วมมือจีน-เอเชียกลางให้แข็งแกร่งขึ้น ผลักดันให้เกิดผลลัพธ์ใหม่ ๆ ในความร่วมมือจีน-เอเชียกลาง และเปิดบทใหม่ในการสร้างประชาคมจีน-เอเชียกลางที่มีอนาคตร่วมกัน"
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 จีนและ 5 ประเทศในเอเชียกลางได้ร่วมกันประกาศสร้างประชาคมจีน-เอเชียกลางที่มีอนาคตร่วมกัน และในการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลางครั้งแรกเมื่อปี 2566 นั้น ประธานาธิบดี Xi ได้วางแผนงานที่ชัดเจนในการสร้างประชาคมที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยยึดหลักการสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การพัฒนาร่วมกัน ความมั่นคงสากล และมิตรภาพที่ยั่งยืน
นับตั้งแต่นั้นมา แรงผลักดันจากการประชุมระดับสูงครั้งแรกนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันทั้ง 6 ชาติต่างตั้งตารอที่จะต่อยอดความสำเร็จเหล่านี้ และสำรวจแนวทางใหม่ ๆ เพื่อกระชับความร่วมมือในภูมิภาคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อไป
จากฉันทมติเชิงยุทธศาสตร์สู่ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม
การประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลางครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 นั้นถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้เกิดกลไกพหุภาคีที่เน้นสันติภาพ ความก้าวหน้า และการเคารพซึ่งกันและกันอย่างเป็นรูปธรรม โดยผลลัพธ์ที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของการประชุมครั้งนั้นคือการลงนามในปฏิญญาซีอาน ซึ่งทั้ง 6 ประเทศให้คำมั่นว่าจะร่วมกันสร้างประชาคมจีน-เอเชียกลางที่มีอนาคตร่วมกันที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมก็ได้ผุดขึ้นในสาขาต่าง ๆ ทำให้ผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดที่ซีอานกลายเป็นความจริง
ยกตัวอย่างเช่น โครงการรถไฟจีน-คีร์กีซสถาน-อุซเบกิสถาน ที่หารือกันมานาน ได้เข้าสู่ขั้นตอนเตรียมการก่อสร้างอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อแล้วเสร็จ รถไฟสายนี้จะช่วยลดต้นทุนและเวลาด้านโลจิสติกส์ได้อย่างมหาศาล และเพิ่มประสิทธิภาพทางการค้าทั่วทั้งภูมิภาค ที่สำคัญคือคาดว่าจะเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้ากับยุโรป เปิดทางเลือกใหม่สำหรับการขนส่งข้ามทวีปยูเรเชีย
เส้นทางรถไฟสายนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างจีนกับเอเชียกลาง ภายใต้แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งยังคงให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงและเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านการเชื่อมโยง ความร่วมมือด้านขีดความสามารถ ไปจนถึงพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐาน
ในคาซัคสถานนั้น ทั้งท่อส่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติจีน-คาซัคสถาน รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันชิมเคนต์ ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคง ส่วนในอุซเบกิสถาน โครงการโรงไฟฟ้าพลังก๊าซ 1,500 เมกะวัตต์ ที่ภูมิภาคเซอร์ดายาได้เริ่มเดินเครื่องแล้ว และโครงการโอลิมปิกซิตีก็คืบหน้าไปได้ด้วยดี สำหรับทาจิกิสถาน โครงการความร่วมมือหลายแห่ง เช่น อาคารรัฐบาล สำนักงานรัฐสภา และส่วนสำคัญของทางหลวงจีน-ทาจิกิสถาน ระยะที่ 2 กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอย่างแข็งขัน ขณะที่ข้อมูลจากบริษัทปิโตรเลียมแห่งชาติจีนระบุว่า ณ เดือนมีนาคม 2568 ปริมาณการค้าก๊าซธรรมชาติสะสมระหว่างเติร์กเมนิสถานกับจีน ซึ่งขนส่งผ่านท่อส่งก๊าซจีน-เอเชียกลาง พุ่งสูงแตะ 4.3 แสนล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณการใช้ก๊าซทั้งปีของจีน
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์จีน มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับ 5 ประเทศในเอเชียกลางทะลุ 9.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 เพิ่มขึ้น 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากปี 2566 และการลงทุนของจีนในเอเชียกลางก็ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคพลังงานสีเขียวและการแปรรูปทางการเกษตร
ศาสตราจารย์ Cui ย้ำว่า เอเชียกลางเป็นทั้ง "ต้นกำเนิด" และพื้นที่สำคัญในการสาธิตแผนริเริ่ม BRI โดยการประชุมสุดยอดครั้งใหม่นี้จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคให้มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น พร้อมเร่งความก้าวหน้าทั้งในด้านการค้าและการลงทุน
นอกจากนี้ การประชุมสุดยอดที่กำลังจะมาถึงนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นหน้าต่างแสดงความสำเร็จของความร่วมมือระดับพหุภาคีเท่านั้น แต่ยังจะเป็นต้นแบบใหม่สำหรับความร่วมมือใต้-ใต้ อีกด้วย
https://news.cgtn.com/news/2025-06-13/China-Central-Asian-countries-seek-closer-ties-at-second-summit-1EaQgdOqZ6E/p.html

แสดงความคิดเห็น