Tencent เปิดตัวเทคโนโลยี AI แบบ Scenario-Based มุ่งขับเคลื่อนประสิทธิภาพของภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก

เปิดตัว AI Agent Development Platform 3.0 ที่พร้อมให้บริการทั่วโลกผ่าน Tencent Cloud ในงาน Global Digital Ecosystem Summit 2025

Tencent Cloud มีฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปีที่แล้ว และมีอัตราการเติบโตระดับเลขสองหลักต่อปีทั่วโลกตลอดสามปีที่ผ่านมา

เซินเจิ้น, จีน, 17 กันยายน 2568 /PRNewswire/ -- Tencent ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยี AI แบบตามสถานการณ์การใช้งาน (Scenario-Based AI) มุ่งเสริมศักยภาพให้กับองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพของภาคอุตสาหกรรมและส่งเสริมการเติบโตในระดับสากล ในงาน Tencent Global Digital Ecosystem Summit 2025 ซึ่งจัดขึ้น ณ Shenzhen World Exhibition & Convention Center ระหว่างวันที่ 16-17 กันยายน โดยภายในงานมีการเปิดตัวแอปพลิเคชัน AI Agent, โซลูชัน "SaaS+AI" และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่อัปเกรดแล้ว

"แอปพลิเคชัน AI ที่พร้อมใช้และใช้งานได้จริงจะช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพของภาคอุตสาหกรรม ขณะที่การขยายธุรกิจสู่สากลจะสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ" Dowson Tong รองประธานบริหารอาวุโสของ Tencent และซีอีโอของกลุ่มธุรกิจคลาวด์และอุตสาหกรรมอัจฉริยะ กล่าว "โซลูชันใหม่ที่อัปเกรดแล้วของเราจะช่วยสนับสนุนองค์กรในการเดินหน้าสู่ยุคอัจฉริยะและขยายธุรกิจสู่สากล พร้อมกับสร้างการเติบโตอย่างยืดหยุ่นและยั่งยืน"

ส่งเสริมการนำโซลูชันอัจฉริยะมาใช้งานอย่างรวดเร็ว

Tencent Cloud Intelligent Agent Strategy Panorama คือแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับการนำ AI Agent Development Platform 3.0 ไปใช้งานทั่วโลก เพื่อให้องค์กรสามารถสร้าง AI Agent อัจฉริยะสำหรับทำงานเฉพาะทาง เช่น การบริการลูกค้า การตลาด การจัดการสินค้าคงคลัง การวิจัย ฯลฯ ขณะเดียวกัน Tencent ยังคงสร้างกรอบการพัฒนา AI Agent ที่หลากหลาย ได้แก่ LLM+RAG, Workflow และ Multi-Agent เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง AI Agent ที่มีความเสถียร ปลอดภัย และสอดคล้องกับธุรกิจ โดยใช้ข้อมูลภายในขององค์กรเอง นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว "Agent Runtime" ของ AI Infra ซึ่งเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการสร้าง การใช้งาน และการดำเนินการ AI Agent อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน ชุดเครื่องมือ SaaS+AI ที่อัปเกรดแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในออฟฟิศได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยฟีเจอร์ AI Minutes ใน Tencent Meetings ที่ช่วยสรุปการประชุม มีอัตราการเติบโตถึง 150% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ Tencent LearnShare ที่ช่วยจัดการการเรียนรู้ มีองค์กรกว่า 300,000 แห่งใช้งานอยู่ในปัจจุบัน และมีอัตราความแม่นยำในการตอบสนองสูงถึง 92% นอกจากนั้นยังมี CodeBuddy เครื่องมือเขียนโค้ดอัจฉริยะสำหรับนักพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยลดเวลาในการเขียนโค้ดได้ถึง 40% พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการวิจัยและพัฒนาได้ถึง 16%

นอกจากนี้ Tencent ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Hunyuan ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่อันเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ได้แก่ Hunyuan 3D 3.0, Hunyuan 3D AI และ Hunyuan 3D Studio สำหรับสร้างโมเดล 3D ขั้นสูง เหมาะกับครีเอเตอร์และนักพัฒนาในอุตสาหกรรมสื่อและเกม โดยโมเดลตระกูล Hunyuan 3D มียอดดาวน์โหลดกว่า 2.6 ล้านครั้งบนแพลตฟอร์ม Hugging Face ส่งผลให้เป็นโมเดล 3D แบบโอเพนซอร์สที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก

ในปีที่ผ่านมา Hunyuan ได้เปิดตัวโมเดลใหม่มากกว่า 30 โมเดล และเปิดรับแนวทางการพัฒนาแบบโอเพนซอร์สอย่างเต็มรูปแบบ โดยได้ทยอยเปิดตัวโมเดลโอเพนซอร์ส เช่น Hunyuan-A13B ซึ่งเป็น hybrid inference model และโมเดลแปลภาษาที่รองรับมากกว่า 30 ภาษา พร้อมด้วยความสามารถในการสร้างคอนเทนต์ครอบคลุมหลายรูปแบบ ทั้งภาพ วิดีโอ และคอนเทนต์ 3D

ขยายธุรกิจสู่สากลอย่างเต็มรูปแบบ

ภายในงานนี้ Tencent Cloud ได้ตอกย้ำความสำเร็จในการขยายธุรกิจสู่สากล โดยระบุว่าฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปีที่แล้ว และตลอดสามปีที่ผ่านมา Tencent Cloud International มีอัตราการเติบโตระดับเลขสองหลักต่อปีทั่วโลก ครอบคลุมตลาดหลักในเอเชีย เช่น ฮ่องกง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น ฯลฯ

ปัจจุบัน บริษัทอินเทอร์เน็ตชั้นนำของจีนกว่า 90% และบริษัทเกมชั้นนำของจีนกว่า 95% ล้วนใช้บริการจาก Tencent Cloud เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ

ในการประชุม Tencent Cloud International Summit ที่จัดขึ้นในช่วงบ่าย พันธมิตรจากทั่วโลก ได้แก่ Converge Information and Communications Technology Solutions, DANA, e& UAE, Hong Kong Jockey Club, Fusion Bank, GoTo Group, Indosat Ooredoo Hutchison (IOH), Miniclip, MUFG Bank (China), Prosus, True IDC ฯลฯ ได้หารือร่วมกันถึงความจำเป็นที่องค์กรจะต้องใช้โซลูชันคลาวด์และ AI ขั้นสูงในการขับเคลื่อนการเติบโตและการขยายธุรกิจสู่สากล

Poshu Yeung รองประธานอาวุโสของ Tencent Cloud International กล่าวว่า "Tencent Cloud นำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการผสาน AI เข้ากับระบบนิเวศของเรา มาปรับใช้กับองค์กรในต่างประเทศ เราหวังว่าการเปิดตัวโซลูชันใหม่อย่าง Tencent Cloud Agent Development Platform จะช่วยขยายธุรกิจของเราให้ครอบคลุมทั่วโลก เพื่อรองรับสถานการณ์การใช้งานขององค์กรและภาคอุตสาหกรรมได้อย่างครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้น"

ในการประชุมครั้งนี้ Tencent Cloud International ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับองค์กรหลายแห่งจากทั่วโลก ประกอบด้วยบริษัทจากเอเชียแปซิฟิก เช่น Datacom, IOH, Gardi Management, GoTo Group, MahakaX, MUFG Bank (China), RYDE Technologies, StoneLink, True IDC และ 99 Group รวมถึงบริษัทจากตะวันออกกลาง เช่น Coop Bank Oromia และ Nativex ไปจนถึงบริษัทจากยุโรป เช่น eMAG และบริษัทจากอเมริกาเหนือ เช่น InCloud

Tencent พร้อมยกระดับกลยุทธ์การขยายธุรกิจสู่สากลของ Tencent Cloud ในสามส่วนหลัก ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี และขีดความสามารถในการให้บริการ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Tencent Cloud อย่างโซลูชัน Superapp-as-a-Service และ PalmAI ได้รับการยอมรับจากองค์กรทั่วโลก ทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และอเมริกา

Tencent Cloud ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายรายการในเวอร์ชันสำหรับต่างประเทศ เช่น Tencent Cloud Agent Development Platform (TCADP), CodeBuddy และ Cloud Mall ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค พร้อมให้การสนับสนุนองค์กรที่ต้องทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ แพลตฟอร์มความปลอดภัย EdgeOne ได้ผสานรวมโมเดลภาษาขนาดใหญ่เข้ากับ Model Context Protocol (MCP) Server ก่อเกิดเป็น EdgeOne Pages ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดระยะเวลาในการพัฒนาและเปิดใช้งานเว็บไซต์จาก 1 วัน เหลือเพียง 1 นาที และภายในเวลาเพียงสามเดือน แพลตฟอร์มนี้ก็มีผู้ใช้งานมากกว่า 100,000 รายทั่วโลก

ปัจจุบัน Tencent Cloud บริหารจัดการดาต้าเซ็นเตอร์ 55 แห่ง ใน 21 ตลาดและภูมิภาค และในอนาคตยังมีแผนทุ่มเงินลงทุน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย พร้อมกับเตรียมสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สามในนครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น และเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในโอซากาด้วยเช่นกัน ขณะนี้ Tencent Cloud ได้เปิดศูนย์สนับสนุนทางเทคนิคระดับโลกรวมทั้งสิ้น 9 แห่งในจาการ์ตา มะนิลา กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ กรุงเทพฯ โตเกียว โซล พาโลอัลโต และแฟรงก์เฟิร์ต