ระบบประเมินความปลอดภัยเชิงปริมาณ BESS ตลอดอายุการใช้งานของ Huawei Digital Power คว้ารางวัลการประเมินระดับสูงสุด

ปักกิ่ง, 29 พ.ย. 2568 /PRNewswire/ -- Huawei Digital Power ร่วมกับพันธมิตรอุตสาหกรรมชั้นนำ ประสบความสำเร็จด้านการประเมินทางเทคนิคอันเข้มงวดจากสภาการไฟฟ้าแห่งประเทศจีน สำหรับระบบประเมินความปลอดภัยเชิงปริมาณ BESS ตลอดอายุการใช้งาน โดยคณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ยืนยันว่าระบบดังกล่าวบรรลุมาตรฐานระดับแนวหน้าของโลกซึ่งปิดช่องโหว่ทางเทคนิคที่สำคัญด้านความปลอดภัยของระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (BESS) ทั้งในจีนและทั่วโลก

สมาชิกคณะกรรมการประเมินผลประกอบด้วย Ouyang Minggao ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยชิงหวา, Rao Hong หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ China Southern Power Grid และผู้เชี่ยวชาญ 12 ท่านจากสถาบันวิจัยพลังงานไฟฟ้าจีน, บริษัท China Southern Power Grid จำกัด, บริษัท State Grid Shanxi Electric Power, สถาบันวิศวกรรมและการวางแผนพลังงานไฟฟ้าจีน, มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง, คณะกรรมการเฉพาะทางของสมาคมวิจัยพลังงานจีน, China International Engineering Consulting Corporation, Beijing Fire Rescue Brigade, TÜV Rheinland และ People's Insurance Company of China โดยมี Huawei Digital Power และองค์กรอีก 6 แห่งยื่นความจำนง

คณะกรรมการได้ตรวจสอบการนำเสนอโครงการ เอกสารประกอบการประเมิน และดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยยืนยันอย่างแข็งขันถึงนวัตกรรม เทคโนโลยี และความสามารถในการใช้งานจริงของระบบประเมินความปลอดภัยเชิงปริมาณ BESS รวมถึงเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ว่า "โครงการนี้ได้สร้างระบบประเมินความปลอดภัยเชิงปริมาณอย่างสร้างสรรค์สำหรับ BESS ตลอดวงจรชีวิต เพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยต่อการใช้งาน BESS ขนาดใหญ่ แบบจำลองการประเมินความน่าจะเป็นของวิวัฒนาการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสากลถูกสร้างขึ้นเพื่อวัดปริมาณและจัดระดับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของระบบอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งช่วยเติมเต็มช่องว่างทางเทคนิคทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก"

ระบบการประเมินที่ Huawei Digital Power ร่วมกันเสนอ ได้จำแนกความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของระบบ BESS จากสูงไปต่ำออกเป็นสามระดับ ได้แก่ A (ไม่สามารถยอมรับได้) B (ต้องบรรเทา) และ C (ยอมรับได้) ตลอดจนระบุข้อกำหนดความน่าจะเป็นของความล้มเหลวที่สอดคล้องกับแต่ละระดับ โดยระดับ A หมายถึงความเสี่ยงสูงมากจนควบคุมไม่ได้ และความน่าจะเป็นที่จะเกิดอุบัติเหตุด้านความปลอดภัยร้ายแรงนั้นสูงมาก ระดับ B หมายถึงความเสี่ยงสูงที่ต้องลดโดยปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมมาใช้ ระดับ C หมายถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสามารถควบคุมได้และสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบร้ายแรง อาทิ เพลิงไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการดังกล่าวดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างเป็นระบบของ BESS โดยใช้กรอบการประเมินเชิงปริมาณ ระบุปัจจัยเสี่ยงสำคัญ และปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีหลัก โดยเทคโนโลยีความปลอดภัยหลักทั้งสี่ประการมีดังนี้:

[1] พัฒนาเทคโนโลยีเตือนความปลอดภัยเชิงรุกอัจฉริยะความแม่นยำสูง เทคโนโลยีดังกล่าวยกระดับความคุ้มครองสภาพการทำงานของอัลกอริทึมการเตือนความผิดพลาด และรับประกันอัตราการเรียกคืนอย่างน้อย 95% โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบลำดับชั้นหลายความถี่ถอดรหัสคู่

[2] บุกเบิกสถาปัตยกรรมการปิดกั้นออกซิเจนแรงดันบวกและควันไอเสียแบบกำหนดทิศทาง ตลอดจนพัฒนาชุดแบตเตอรี่ความปลอดภัยสูงซึ่งมีคุณสมบัติทนความร้อน แรงดันบวกสูง ความหนาแน่นของอากาศสูง ตลอดจนการป้องกันการกัดกร่อนและฉนวน ชุดแบตเตอรี่จะไม่ติดไฟหรือทำให้เกิดความผิดพลาด แม้เซลล์แบตเตอรี่แปดเซลล์จะเกิดความร้อนสะสมพร้อมกันก็ตาม

[3] บุกเบิกสถาปัตยกรรมการแปลงพลังงานสองระดับอัจฉริยะแบบสตริงเพื่อการันตีว่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลอยู่ในโครงข่ายไฟฟ้าจะไม่ถูกป้อนกลับในช่วงแรงดันเกินชั่วขณะของกริดในสถานะการชาร์จเต็มช่วง รองรับกำลังไฟคงที่เพื่อช่วยกู้คืนกริดที่เสถียร รวมถึงรับประกันความปลอดภัยของอุปกรณ์ระบบกักเก็บพลังงานและกริด

[4] บุกเบิกฉนวนที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและเทคโนโลยีการตรวจจับแบบเรียลไทม์เพื่อบรรลุสภาวะความต้านทานสูงของการรั่วไหลของอิเล็กโทรไลต์ เมื่อผสานกับการตรวจจับฉนวนแบบเรียลไทม์เต็มรูปจะช่วยลดความเสี่ยงของการลัดวงจรไฟฟ้าแรงสูงอันเกิดจากความล้มเหลวของฉนวนได้

ความสำเร็จของโครงการนี้ได้รับการประยุกต์ใช้ในโครงการขนาดใหญ่ ณ ประเทศจีนและทั่วโลก อาทิ โรงไฟฟ้ากักเก็บพลังงานแบบสร้างกริด ZDI ในจังหวัดอาหลี่ ประเทศจีน โรงไฟฟ้ากักเก็บพลังงานแบบสร้างกริดในอุซเบกิสถาน และไมโครกริดปลายทางทะเลแดงซึ่งใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในซาอุดีอาระเบีย

ศาสตราจารย์ Ouyang Minggao จากมหาวิทยาลัยชิงหวา กล่าวว่า วิธีการประเมินความปลอดภัยเชิงปริมาณซึ่งพัฒนาขึ้นในโครงการนี้นับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมที่มีนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอันโดดเด่น และมีบทบาทสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยโดยรวมของอุตสาหกรรม BESS โครงการดังกล่าวมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ รวมถึงโอกาสในการนำไปประยุกต์ใช้ในระดับชั้นนำของโลกอันจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยในการกักเก็บพลังงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการรับประกันที่มั่นคงสำหรับการสร้างระบบไฟฟ้าใหม่ และการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างมีคุณภาพ

Steven Zhou ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ Smart PV & ESS ของ Huawei Digital Power ทิ้งท้ายว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เซลล์แสงอาทิตย์ พลังงานลม และระบบกักเก็บพลังงานจะกลายเป็นแหล่งพลังงานหลัก เราหวังว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม หน่วยงานในอุตสาหกรรม สมาคมอุตสาหกรรม วิสาหกิจต้นน้ำและปลายน้ำ ตลอดจนองค์กรด้านมาตรฐานต่าง ๆ จะร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมภารกิจหลักสามประการ ได้แก่ การพัฒนามาตรฐาน การแบ่งปันเทคโนโลยี และการสร้างระบบนิเวศ Huawei Digital Power มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมในวงกว้าง ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพสูง เร่งพัฒนา เซลล์แสงอาทิตย์ พลังงานลม และระบบกักเก็บพลังงานให้เป็นแหล่งพลังงานหลัก พร้อมลดช่องว่างด้านพลังงานทั่วโลก เพื่อส่งมอบพลังงานสีเขียวอันมีเสถียรภาพและเข้าถึงได้แก่ทุกคน