ภาษาไทย
English
|
- Lenovo คว้าอันดับ 1 ในการจัดอันดับ Top500 Supercomputers และ Green500
- ระบบ Neptune สามารถระบายความร้อนได้สูงสุด 100% และทำค่า PUE ได้ที่ 1.1
- ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำอุ่นทำงานได้ที่อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 45 °C ซึ่งจะช่วยขจัดความจำเป็นในการใช้น้ำเย็น
กรุงเทพฯ, 28 พฤศจิกายน 2568 /PRNewswire/ -- Lenovo ประกาศขยับขยายเทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว Neptune ให้ครอบคลุมพอร์ตโฟลิโอศูนย์ข้อมูลเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนสำหรับยุคแห่ง AI เทคโนโลยี Lenovo Neptune นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผล และพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นของศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ โดยช่วยให้เซิร์ฟเวอร์ลดการใช้พลังงานได้ต่ำกว่าระบบระบายความร้อนด้วยอากาศถึง 40% แต่ยังคงประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอ พร้อมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
Lenovo ยังคงสานต่อความเป็นผู้นำด้านการประมวลผลที่ประหยัดพลังงานอย่างต่อเนื่อง โดย ณ เดือนพฤศจิกายน 2568 Lenovo ได้ครองอันดับ 1 ทั้งในรายการ Top500 และ Green500 จากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยี Neptune ซึ่งสามารถส่งมอบประสิทธิภาพระดับโลกควบคู่ไปกับความยั่งยืนระดับผู้นำอุตสาหกรรม
แนวทางการระบายความร้อนสำหรับยุค AI
รายงาน IDC & Lenovo CIO Playbook 2025 ระบุว่าการยกระดับความยั่งยืนเป็นภารกิจสำคัญอันดับต้นๆ ทางธุรกิจ เพราะในขณะที่องค์กรต่าง ๆ เร่งนำ AI มาปรับใช้ ศูนย์ข้อมูลกำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านความร้อน และประสิทธิภาพอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากการประมวลผลที่หนาแน่น และการใช้พลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง การระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิมจึงไม่เพียงพอที่จะจัดการกับความร้อนที่เกิดจากระบบ AI สมัยใหม่ได้อีกต่อไป
เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยน้ำโดยตรง (DWC) Neptune ของ Lenovo ได้เข้ามาตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ด้วยการหมุนเวียนน้ำอุ่นไปยังโหนดของระบบโดยตรงเพื่อระบายความร้อนออกจาก CPU, GPU และหน่วยความจำ ซึ่งต่างจากระบบน้ำเย็นที่ต้องทำงานที่อุณหภูมิประมาณ 18 °C โดยระบบ Neptune สามารถรองรับอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นได้สูงถึงประมาณ 45 °C พร้อมขจัดความจำเป็นในการใช้เครื่องทำน้ำเย็น ลดการพึ่งพาเครื่องส่งลมเย็น และรับประกันเสถียรภาพของอุณหภูมิสำหรับเวิร์กโหลด AI และ HPC
ระบบ Neptune เจเนอเรชันที่ 6 ซึ่งสร้างขึ้นจากนวัตกรรมกว่าทศวรรษและสิทธิบัตรหลายร้อยรายการ มาพร้อมสถาปัตยกรรมการระบายความร้อนด้วยน้ำขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความหนาแน่นของตู้แร็คที่สูงขึ้น และช่วยให้ระบบสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้ระบบปรับอากาศแบบพิเศษ แชสซีระบายความร้อนด้วยของเหลวแนวตั้งแบบใหม่ช่วยมอบการประมวลผลที่รวดเร็วในระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว 100% ขนาดกะทัดรัด พร้อมขจัดความจำเป็นในการใช้พัดลมที่กินไฟ และลดการใช้พลังงานทั่วทั้งศูนย์ข้อมูล
สานต่อวิสัยทัศน์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของ Lenovo
Lenovo กำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 (ซึ่งได้รับการรับรองจาก Science Based Targets initiative (SBTi)) โดยมุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซในระยะยาวผ่านการใช้พลังงานหมุนเวียน การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ และการดำเนินงานศูนย์ข้อมูลที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยมีเทคโนโลยี Neptune เป็นส่วนสำคัญของการเดินทางนี้ ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูลอย่างเป็นรูปธรรม และช่วยให้ลูกค้าก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืนได้โดยไม่ต้องลดทอนประสิทธิภาพของ AI
ตอบโจทย์ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่ยั่งยืนระดับโลก
ความต้องการด้าน AI ระบบคลาวด์ และบริการดิจิทัลขั้นสูงที่พุ่งสูงขึ้นได้ส่งผลให้ศูนย์ข้อมูลทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว และทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยคาดว่าการใช้ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้จะเพิ่มขึ้นจาก 320 เทราวัตต์-ชั่วโมงในปี 2567 เป็น 780 เทราวัตต์-ชั่วโมงภายในปี 2573
"องค์กรทั่วเอเชียแปซิฟิกกำลังมองหาโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ไม่เพียงแต่ทรงพลัง แต่ยังต้องประหยัดพลังงานในระดับพื้นฐาน ซึ่ง Neptune ได้มอบความได้เปรียบนั้นให้กับลูกค้าของเรา ความเป็นผู้นำของเราในการจัดอันดับ Top500 และ Green500 แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่แท้จริงของนวัตกรรมเหล่านี้ เพราะในขณะที่ AI ปรับขยายมากขึ้น มีเพียงโซลูชันที่ผสานประสิทธิภาพเข้ากับการใช้พลังงานอย่างรับผิดชอบเท่านั้นที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของการเติบโตทางดิจิทัลในยุคหน้า และนั่นคือสิ่งที่ Lenovo กำลังส่งมอบ" Kumar Mitra กรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจ Infrastructure Solutions Group (ISG) ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกลาง และออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ของ Lenovo กล่าว
ประสิทธิภาพที่ยั่งยืนในระดับใหญ่
Lenovo ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับ AI และมีความยั่งยืนผ่านระบบนิเวศ Neptune ซึ่งผสานรวม การระบายความร้อนด้วยน้ำอุ่นไปยังโหนดโดยตรง เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนที่ประตูด้านหลัง และโมดูลถ่ายเทความร้อนเข้าไว้ในการออกแบบระบบปิดที่มีประสิทธิภาพสูง น้ำหล่อเย็นอุ่นจะไหลผ่านแผ่นเย็นที่มีความแม่นยำบนส่วนประกอบหลัก โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นประมาณ 10-15 °C ก่อนจะถ่ายเทความร้อนผ่านวงจรแยกของอาคารเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมกับช่วยลดความจำเป็นในการใช้น้ำเย็น ในขณะที่ยังรักษาประสิทธิภาพให้คงที่ เมื่อนำเทคโนโลยี Neptune มาใช้งานรวมกับเซิร์ฟเวอร์ ThinkSystem และ ThinkAgile ของ Lenovo แล้ว เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าลดการใช้พลังงาน และต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) พร้อมรองรับเวิร์กโหลด AI และ HPC ที่มีความหนาแน่นสูงได้อย่างน่าเชื่อถือ
ThinkSystem SR780a ของ Lenovo ที่ขับเคลื่อนด้วย Lenovo Neptune แสดงให้เห็นว่าการระบายความร้อนด้วยน้ำอุ่นสามารถส่งมอบประโยชน์ด้านประสิทธิภาพได้จริง โดยระบบนี้สามารถทำค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ได้ที่ 1.1 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของประสิทธิภาพศูนย์ข้อมูล โดยค่า PUE จะบ่งบอกถึงปริมาณพลังงานที่ใช้สำหรับการประมวลผลเทียบกับการระบายความร้อน และค่าคะแนนที่สมบูรณ์แบบคือ 1.0 ซึ่งค่า PUE ที่ 1.1 หมายความว่ามีการใช้พลังงานเพียง 0.1 วัตต์สำหรับการระบายความร้อน และนับว่าเป็นระดับที่ยากจะทำได้ด้วยระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ
Lenovo ได้สร้างผลกระทบที่วัดผลได้สำหรับเวิร์กโหลดที่ท้าทายที่สุดในโลก ตัวอย่างเช่น ที่ DreamWorks Animation ระบบ HPC ที่ขับเคลื่อนด้วย Neptune ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 20% พร้อมลดความต้องการในการระบายความร้อนไปในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยีนี้ยังได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาชั้นนำในเกาหลีและมาเลเซีย รวมถึงมหาวิทยาลัย องค์กรวิจัย และผู้สร้างคอนเทนต์ดิจิทัลทั่วเอเชียแปซิฟิก การนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายนี้ได้ตอกย้ำถึงขีดความสามารถของ Neptune ในการรองรับเวิร์กโหลด AI และ HPC ที่มีความหนาแน่นสูง และหลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้
เทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำไปใช้ในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ประหยัดพลังงานที่สุดในโลกหลายแห่ง ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของ Lenovo ในฐานะผู้นำด้านการประมวลผลอย่างมีความรับผิดชอบ และ Neptune คือกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายที่กว้างขึ้นของ Lenovo ในการช่วยให้ลูกค้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมสำหรับ AI ซึ่งทั้งทรงพลังและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
เกี่ยวกับ Lenovo
Lenovo คือผู้ทรงอิทธิพลด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่มีรายได้ 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จัดอยู่ในอันดับที่ 196 ของ Fortune Global 500 และให้บริการลูกค้าหลายล้านคนใน 180 แห่งทั่วโลกในทุกวัน Lenovo มีวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการส่งมอบเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน และได้สร้างความสำเร็จในฐานะบริษัทพีซีที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยพอร์ตโฟลิโออุปกรณ์ที่ครบวงจร ซึ่งรองรับ AI, พร้อมสำหรับ AI และปรับแต่งเพื่อ AI (พีซี, เวิร์กสเตชัน, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต), โครงสร้างพื้นฐาน (เซิร์ฟเวอร์, อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล, เอดจ์, การประมวลผลสมรรถนะสูง และโครงสร้างพื้นฐานที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์), ซอฟต์แวร์, โซลูชัน และบริการ การลงทุนอย่างต่อเนื่องของ Lenovo ในนวัตกรรมที่พลิกโลกกำลังสร้างอนาคตที่เท่าเทียม น่าเชื่อถือ และชาญฉลาดยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนในทุกที่ Lenovo จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงภายใต้ชื่อ Lenovo Group Limited (HKSE: 992) (ADR: LNVGY) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.lenovo.com, และอ่านเกี่ยวกับข่าวสารล่าสุดได้ที่ StoryHub
สื่อมวลชน โปรดติดต่อ:
LenovoISGIndia@zenogroup.com
โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/2833522/Lenovo_Logo.jpg?p=medium600
แสดงความคิดเห็น