
รายงานฉบับใหม่ของ Lancet Countdown China เผยให้เห็นว่า 8 ใน 13 ดัชนีชี้วัดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การเปิดตัวที่ปักกิ่งแสดงให้เห็นถึงแนวทางซึ่งปรับขนาดได้สำหรับการพัฒนาเมืองที่มีความยืดหยุ่นและปล่อยคาร์บอนต่ำ
ปักกิ่ง, 31 ต.ค. 2568 /PRNewswire/ -- ขณะที่ดัชนีชี้วัดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สำคัญ 8 ใน 13 ตัวของจีนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รายงาน Lancet Countdown China ประจำปี 2568 ซึ่งเปิดตัวที่มหาวิทยาลัยชิงหวา ได้นำเสนอบทเรียนอันทรงคุณค่าสำหรับความยืดหยุ่นของเมืองและการพัฒนาคาร์บอนต่ำ
รายงานฉบับดังกล่าวนำเสนอการวิเคราะห์ระดับเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเนื่องในวันเมืองโลกภายใต้หัวข้อ "เสริมพลังเมืองเพื่อการทำงานร่วมกัน" เผยให้เห็นช่องว่างสำคัญระหว่างการประเมินระดับชาติและระดับท้องถิ่นกับความเสี่ยงที่แตกต่างกันซึ่งแต่ละเมืองต้องเผชิญ "ในขณะที่สัญญาณเตือนภัยสภาพภูมิอากาศกำลังดังอยู่ทั่วทุกหนแห่ง เราต้องต่อสู้กับความตระหนักรู้ของสาธารณชนที่ปรับตัวลง และจัดหาแนวทางแก้ไขที่ตรงจุดให้กับเมืองต่าง ๆ การวิเคราะห์ของเราแสดงให้เห็นว่าการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศที่มุ่งเน้นด้านสุขภาพไม่ใช่ตัวฉุดรั้งทางเศรษฐกิจ แต่กลับเป็นตัวเร่งการเติบโต" ศาสตราจารย์ Cai Wenjia ผู้อำนวยการศูนย์ Lancet Countdown Asia แห่งมหาวิทยาลัยชิงหัว กล่าว
ผลการวิจัยสำคัญที่มีผลกระทบระดับภูมิภาค ได้แก่:
- ปัจจุบันประเทศในเอเชียเผชิญกับคลื่นความร้อนเฉลี่ย 20 วันต่อปี (พ.ศ. 2565-2567) โดย 16 วันจากจำนวนนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ความเหนื่อยล้าจากความเสี่ยงของสาธารณชนกำลังเกิดขึ้นเนื่องจากมีคำเตือนเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการรับมือ
- แต่ละเมืองกำลังเผชิญกับวิกฤตสุขภาพจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันไป ค่าเฉลี่ยระดับประเทศปกปิดจุดอ่อนที่สำคัญในระดับท้องถิ่น
- งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ไม่สอดคล้องกับความต้องการเร่งด่วนที่สุดของเมือง โดยยังคงมีข้อจำกัดด้านวิธีแก้ปัญหาที่คุ้มค่า
- การดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศซึ่งเน้นสุขภาพเป็นศูนย์กลางผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าที่จะเป็นอุปสรรค
รายงานระบุว่าเมืองต่าง ๆ เป็นทั้งศูนย์กลางของความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป็นกลไกขับเคลื่อนการแก้ปัญหา โดยสรุปห้ามาตรการสำคัญตั้งแต่การพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไปจนถึงการผนวกสุขภาพเข้ากับการวางแผนเมืองอัจฉริยะ
ในงานเปิดตัวมีผู้เชี่ยวชาญจากสิงคโปร์ อินเดีย ออสเตรเลีย และจีนมาร่วมอภิปรายเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาเมืองที่ใช้งานได้จริง นอกจากนี้ ในงานยังเน้นย้ำถึงแนวทางการจัดหาเงินทุนใหม่ ๆ ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชียเน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งเสริมสุขภาพและธรรมชาติ ขณะที่เครือข่าย Asian Venture Philanthropy ได้เปิดตัวกองทุน Climate x Health Lighthouse Fund ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการกุศลแห่งแรกของเอเชียที่ขยายขอบเขตการนำหลักการของนวัตกรรมไปใช้เพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง
"หลักฐานระดับเมืองในรายงานฉบับนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลท้องถิ่นต้องการอย่างแท้จริงเพื่อเปลี่ยนจากการวางแผนไปสู่การปฏิบัติ" ดร. Sandro Demaio ผู้อำนวยการศูนย์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกขององค์การอนามัยโลก ทิ้งท้าย
ศึกษารายงานฉบับเต็มได้ทาง https://www.thelancet.com/journals/lanpub/article/PIIS2468-2667(25)00230-0/fulltext


ภาษาไทย
English
แสดงความคิดเห็น