กองทุน ETF ต้นทุนต่ำและกองทุนระยะยาว หนุนการลงทุนในหุ้นปันผลสูงในตลาด A-Share

กว่างโจว, จีน, 24 เมษายน 2568 /PRNewswire/ — ในปี 2567 ตลาดหุ้น A-Share ของจีนได้บรรลุหลักชัยสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ ด้วยการจ่ายเงินปันผลรวมสูงถึง 2.4 ล้านล้านหยวน (3.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ ณ วันที่ 13 เมษายน บริษัทจดทะเบียน 1,156 แห่งก็ได้ประกาศแผนการจ่ายเงินปันผลรวมกว่า 1.13 ล้านล้านหยวน (1.60 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะเดียวกัน ดัชนี CSI 300 Index และ CSI Dividend Index ก็มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 3.5% และ 6.3% ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนถึงการจ่ายเงินปันผลในระดับสูง เนื่องด้วยกระแสดังกล่าว ในวันที่ 28 เมษายนนี้ E Fund Management ("E Fund") บริษัทจัดการกองทุนรวมที่ใหญ่ที่สุดของจีน จะมีการเปิดตัว E Fund CSI Dividend Value ETF (รหัส: 563700) ซึ่งถือเป็นกองทุน ETF แรกที่อิงกับดัชนี CSI Dividend Value Index โดยมุ่งขยายตัวเลือกกองทุน ETF สายปันผลต้นทุนต่ำให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าในปัจจุบัน ดัชนีตลาดหุ้นที่ประกอบด้วยบริษัทที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ เช่น CSI Dividend Index และ CSI Dividend Low Volatility Index กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทในดัชนีเหล่านี้เน้นลงทุนในภาคส่วนที่พึ่งพาตลาดภายในประเทศเป็นหลัก และมีความอ่อนไหวต่อการค้าต่างประเทศต่ำ โดยบริษัทในดัชนีดังกล่าวมีรายได้จากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนเพียง 6.3% และ 4.3% ตามลำดับในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เทียบกับ 11% ในดัชนี CSI 300 Index

ปัจจุบัน กองทุน ETF สายปันผลของ E Fund ประกอบด้วย E Fund CSI Dividend ETF (รหัส: 515180), E Fund CSI Dividend Low Volatility ETF (รหัส: 563020), E Fund Hang Seng SCHK High Dividend Low Volatility ETF (รหัส: 159545) และ E Fund CSI Dividend Value ETF โดยในจำนวนนี้ E Fund CSI Dividend ETF ซึ่งมีให้บริการผ่าน ETF Connect มีมูลค่าสูงถึง 9.3 พันล้านหยวน (1.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือเป็นกองทุนที่มีมูลค่าสูงสุดเมื่อเทียบกับกองทุนประเภทเดียวกันที่อิงตามดัชนี CSI Dividend Index ณ วันที่ 23 เมษายน โดยกองทุนทั้งหมดนี้มีอัตราค่าธรรมเนียมการจัดการต่ำที่สุดในตลาดเพียง 0.15% ต่อปี ช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีเงินปันผลสูงได้อย่างคุ้มทุน

ยิ่งไปกว่านั้น การที่กองทุนบำเหน็จบำนาญ กองทุนสาธารณะ และกองทุนระยะกลางถึงระยะยาวอื่น ๆ เข้ามาในตลาดหุ้น ได้เพิ่มความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของการลงทุนที่เน้นเงินปันผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนบริหารความมั่งคั่ง ซึ่งให้ความสำคัญกับเงินปันผลที่มีความผันผวนต่ำมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นในกรณีของ E Fund CSI Dividend Low Volatility ETF ซึ่งได้รับความสนใจจากกองทุนบริหารความมั่งคั่งเป็นอย่างมาก โดยในบรรดาผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ 10 อันดับแรก มี 3 รายที่เป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่ง และถือครองหุ้นรวมกันคิดเป็นสัดส่วน 9.23% ของ outstanding share ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567

เกี่ยวกับ E Fund

E Fund Management Co., Ltd. ("E Fund") ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2544 เป็นผู้จัดการกองทุนรวมแบบครบวงจรชั้นนำในประเทศจีน โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 3.5 ล้านล้านหยวน (4.97 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) บริษัทนำเสนอโซลูชันด้านการลงทุนให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่วยให้ลูกค้าบรรลุผลสำเร็จด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนในระยะยาว ลูกค้าของ E Fund ประกอบด้วยบุคคลและสถาบันต่าง ๆ ตั้งแต่ธนาคารกลาง กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกันภัยและประกันภัยต่อ ไปจนถึงองค์กรและธนาคาร ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับธุรกิจการจัดการการลงทุนนับตั้งแต่ก่อตั้ง และเชื่อมั่นในพลังของการวิจัยเชิงลึกและเวลาในการลงทุน อีกทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำด้านการลงทุนด้วยความรับผิดชอบในประเทศจีน ตลอดจนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ของจีนที่โดดเด่นและได้รับความไว้วางใจมากที่สุด

ที่มา: E Fund. AuM รวมถึงบริษัทในเครือ ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ด้านข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนมาจากธนาคาร PBoC